The Hos สูตรรักฉบับซานต้า
.................
ผู้เข้าชมรวม
168
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
The Hos สูตรรักฉบับซานต้า
สวัสดี... วันนี้คือวันคริสต์มาส
แล้วมันก็คือวันวันหนึ่ง
แค่วันวันหนึ่งเท่านั้น
มันจะน่าเบื่อไหมหากชีวิตของคุณไม่เคยรู้สึกเซอร์ไพรกับเทศกาลอะไรทั้งนั้น
สวัสดีฉันชื่อ ‘บีโค’ ฉันเป็นพนักงานห้องบัตรของโรงพยาบาลเกือบตาย ถามว่าฉันสวยไหม? ก็ไม่น่ะ ฉันรวยไหม? ก็ไม่น่ะ แล้วฉันมีดีอะไรบ้าง
ก็... มีงานทำ มีเงินไว้ใช้ไว้กินไปวันๆไม่ต้องแบมือขอตังค์ใคร นั้นแหละขอดี
(รึป่าว)แต่ถึงอย่างนั้นแม้ฉันจะดูเอาดีเอาเด่นด้านอะไรไม่ได้ซักก่ะอย่าง
แต่...ฉันก็มีแฟนที่เค้าก็รักฉันและฉันก็รักเค้า (ฉันคิดว่าน่ะ)
“สวัสดีจ้าบีโคทำไรอยู่เหรอ...?”
กระเทยเผือกจากห้องแลปมาทักทายฉันซึ่งนางผู้นี่มีนามว่า
‘ดี๋ดี’ แต่ไม่เห็นจะดีสมชื่อเลยชอบยุ่งจุ้นจานเรื่องชาวบ้านทั่วราชนาจักรนินทาตั้งแต่ผอ.ยันหมาหน้าโรงบาลคิดดูนางเก่งขนาดไหน
“ก็เห็นได้ด้วยตาอ่ะเจ้...ทำงานอยู่ไม่หน้าถาม”
จากนั้นพี่แกยกสันมือพร้อมที่จะตบกะบาลแตก หนูหนิยกมือท่วมหัวเลย
“โทษทีพี่ดี๋ดีงานยุ่งอ่ะหนูก็เลยปล่อยหมาสู่ธรรมชาติบ้าง
ว่าแต่วันนี้พี่ไม่ไปตรวจขี้ตรวจเยี่ยวเหรอเห็นมาหาหนูได้”
“ไม่ต้องห่วงวันนี้ผัวพี่อยู่เวร
งานหน่ะให้มันทำแทน พี่ก็เลยแอบแว๊ปมาเม้ามอยกับแกได้ไง”
“อ่ะๆพี่มีอะไรจะเม้าก็เม้ามาหนูหนิสงสารผัวพี่เดี๋ยวตายคากองขี้”
คืออันนี้พูดด้วยความจริงใจจริงๆก็พี่ดี๋ดีอ่ะ แกชอบกดขี่ผัวสารพัด ไม่ว่าจะเป็นงานราชงานหลวงถูกโขกสับอยู่เป็นนิจจนแทบจะเรียกว่าผัวทาสก็ว่าได้
“หนิแกคิดอะไรกับผัวพี่รึป่าว...”
นั้นไงคนคิดดีก็ยังถูกละแวงอีกเวรกรรมจริงๆ และอยากบอกว่าขอโทษน่ะพี่หนูไม่ชอบผู้ชายขุดทอง
ก่อนที่ชีวิตจะดับอนาถ ก็เลยต้องแอ๊บตอบไปว่า...
“จะบ้าเหรอพี่หนูมีแฟนแล้ว...”
“เออๆ รู้แล้วๆ แกหน่ะชอบผู้ชายเถื่อนๆ
ไฮโซโก้หรูแบบผัวพี่แกไม่สน ถูกป่ะ” หน่ะด่าแฟนเราอีกแต่ก็ต้องตอบไปว่า...
“จร้า....................
ว่าแต่วันนี้พี่มีเรื่องจะมาเม่าใช่ป่าวไม่งั้นคงไม่ลากสังขารมาถึงห้องบัตร”
“ถูกต้องไอ้น้องรัก
อ่ะๆฉันรู้ว่าแกตื้นเต้นอยากจะฟังเรื่องเล่าจนเต็มแก เดี๊ยวแม่จะเม่าให้ฟังเรื่องมีอยู่ว่าร้านยาของพี่ภาคินสุดหล่อผัวหมายเลขสองหน่ะ...
ถูกขโมยขึ้น”
“ขโมยขึ้น” ฉันอุทานออกมาเพราะว่า...
ผู้ชายที่ชื่อภาคิน ฉันหน่ะรู้จักเค้า แล้วก็...
รู้จักดีด้วย
“อุทานซ่ะดังเชียวอย่างกับญาติ” ฉันสั้นหัวยิกๆแล้วแบมือเพื่อเป็นสัญญาณบอกว่าพี่เล่าต่อเลย
“ก็เมื่อวานประมาณหกโมงเย็นตอนนั้นฝนมันตกมันก็เลยมืดๆ
แล้วร้านยาพี่เค้าก็ปิดไม่มีคน แล้วด้วยความที่ร้านพี่เค้าเป็นบ้านชั้นเดียวหน่ะ
พวกโจรมันอ่ะก็เลยจัดการเปิดหลังคาแล้วโรยตัวลงมาขโมยของ แต่ก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากหรอกน่ะ
เพราะพวกมันก็ได้แค่ยาไอกับถุงยางอนามัยแล้วก็เงินสดแค่พันกว่าบาท ของแค่นั้นไม่ได้ระคายหน้าแค้งพี่ภาคินผัวคนที่สองพี่เลย”
“ผัวคนที่สองเหรอพี่...
งั้นเดียวหนูเอาเรื่องนี่ไปเล่าให้ผัวตรวจขี้ของพี่ฟังน่ะ” จากนั้นพี่แกก็ยกตีนชี้หน้าเป็นค่าหุบปากเลย
ก่อนที่ชะตาชีวิตจะสั้นลงเพราะเมาส้นตีนตายก็ขอเปี่ยงประเด็นเป็นการเอาตัวรอด
“โจรกระจอกอ่ะพี่ ว่าแต่พี่ดี๋ดี ไอ้ยาไอกับถุงยางอนามัยมันจะเอาไปทำไม(?)”
“ถามมาได้อย่าบอกใครหล่ะว่าทำงานโรงบาลฉันหล่ะอ๊าย...
อาย ก็พวกโจรหน่ะมันเป็นเด็กติดยาไง ยาไอมันก็จะเอาไปผสมกับกระท่อมแล้วก็เสพ ส่วนถุงยางก็เวลามันเมาๆมันก็เอากันเอง
อันที่จริงเจ้ว่า... มันแดกกันเองมันไม่จำเป็นต้องใส่ถุงหน่ะ”
“ทำไมล่ะเวลาเจ้นอนกับผัวเจ้าไม่ใส่เหรอ”
“ใส่สิย่ะ ไม่ใส่ไม่ได้”
“ผัวเจ้กลัวเจ้อึใส่เหรอ”
“หยาบคายน่ะชะนีเจ้ไม่ใช่คนไร้วัฒนธรรมแบบนั้นน่าเกลียด”
ไม่ทันที่ฉันจะได้คุยต่อทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังเข้ามา
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
จากนั้นเจ้ก็บ๊ายบายบอกลาพร้อมบอกว่าผัวโทรเรียกให้ไปเอา แหม่... น่าหมั่นใส่จริงๆสี่โมงเย็นฟ้ายังสว่างถ้าจะสะบาระเห่กันป่านี้ขี้ใส่ก็ไม่แปลก
เวลาร่วงเลยมาจนมาถึงเวลาเลิกงาน
“เลิกงานแล้วไม่กลับบ้านเหรอ(?)”
เสียงนั้นใกล้ใกล้เอามากๆ
ใกล้จนเพียงหันไปมองริมฝีปากฉันก็ดันสัมผัสกับตอนกำเนิดเสียง
สัมผัสนั้นจาบจวงที่สุด มันเกาะกุมริมฝีปากฉันจนแทบไม่มีพื้นที่หลงเหลือให้หายใจ
“หวานจัง หลอกจุ๊บพี่เหรอบีโค”
และคนที่ทำแบบนี่ก็คือ... พี่ภาคินเภสัชหนุ่มหล่อประจำห้องยาชายหนุ่มสุดคูล
และเค้าก็เป็นแค่คนที่ฉันเคยรู้จัก
แล้ววันนี้คนที่เห็นแก่ตัว ไร้นำใจอย่างนายภาคิน ผีตนไหนเข้าฝันทำตัวเป็นคนมีวัฒนธรรมคิดไงถึงได้มาชวนฉันกลับ
แต่ที่แย่....ก็ไอ้ดันที่มาหลอกจูบกันเนี่ยแหละทำแบบนี้เกินไปน่ะ
อันนี้กูโกรธ………
“หนูเหรอจูบพี่... อย่าทำแบบนี้อีกน่ะ
หนูมีแฟนแล้ว”
ไม่ทันที่พี่ภาคินจะได้พูดอะไรต่อฉันจึงรีบเก็บกระเป๋าแล้วออกจากห้องเพื่อกลับบ้านตอนนี้ฉันไม่อยากจะเสวนากับคนที่เอาแต่ใจตัวเองอย่างนายภาคิน
ทันใดนั้นขณะที่ฝีเท้ามุ่งไปข้างหน้าฉันก็ดันไปชนกับชายชราคนหนึ่งที่ยืนอยู่เค้าไว้หนวดเครารุงรังนุ่งขาวห่มขาวดูแล้วไม่ปกติมนุษย์
“คุณลุงเป็นอะไรไหมค่ะ”
“ลุงเป็นซานตาคลอสจ้า” ซานตาคลอสเหรอ(?) แดกจุดเลยฉัน
คือคำถามฉันกว้างไปใช่ไหมเนี่ย
“แล้วคุณลุงมาโรงพยาบาลทำไมค่ะ ป่วยเป็นอะไรรึปล่าว”
“ลุงไม่ได้เป็นอะไร
ลุงเป็นซานต้าคลอสมาแจกของขวัญให้เด็กน้อย
เด็กน้อยที่ไม่เคยได้อะไรจากลุงเลยเพียงเพราะเค้าไม่เชื่อว่าลุงมีตัวตนจริงๆ” เอ่อ... ถามอย่างตอบอย่า เอาแล้วไงเจอซานต้าในโรงพยาบาลสภาพอย่างกับชีเปลือย
วันนี้เจอคนเพี้ยนไม่พอยังมาเจอคนป่วยเป็นจิตเวชอีกเวรกรรม
แล้วนี่ฉันต้องของขวัญจากลุงด้วยรึปล่าวแต่ดูแล้วสภาพแม้แต่เหรียญห้าบาทยังไม่มีปัญญา
“ขอมาสิเด็กน้อย ลุงให้หนูได้ทุกอย่างเหรียญห้าบาทลุงมีน่ะอยากได้รึปล่าวล่ะ”
แหน่ะรู้อีกว่าเราคิดอะไร
“ไม่ดีกว่าค่ะคุณลุงซานต้า
ว่าแต่วันนี้คุณลุงซานต้าจะกลับบ้านยังไงค่ะ” จากนั้นชายชราก็ชี้ไปที่รถเข็นแล้วบอกว่า...
“กวางเรนเดียร์” เรนเดียร์กูละเพลีย บ้าแน่ๆ
ฉันเนี่ยแหละที่กำลังจะบ้าแน่ๆ ขอตัวไปโด๊ปยาพาราแป๋บไมเกรนแดก
“นี่หนูจะไปไหน
หนูยังไม่ได้ขอของขวัญจากลุงเลยขอมาก่อนสิแล้วลุงจะปล่อย” ชายชราดึงแขนฉันแน่น ได้...อยากให้ขอก็จะขอว่าแต่ขอไรดีว่ะ...
ท่าทางถ้าไม่ตอบลุงแกจะเกาะฉันจนแขนขึ้นเห็ด งั้น........
“ขอให้หนูเจอรักแท้”
คือนี่กูตอบอะไรลงไปเนี่ย... ฟังแล้วเพลีย แฟนรู้ต้องฆ่ากูตายแน่ (ประมาณว่า...
นี้แกคิดว่าฉันไม่รักแกเหรอ? หรือแกคิดนอกใจฉัน อะไรทำนองนี้) แถมยังเป็นคำตอบที่เน่าชิบแต่ก็เอาเถอะเพราะดูท่าทางลุงแกจะพอใจกับคำตอบแล้วยอมปล่อยมือออกจากแขนฉันแต่โดยดี
“เด็กน้อย
รักแท้จะมาหาเจ้าในเวลาเที่ยงคืนของวันคริสต์มาส” มันคือคำพูดสุดท้ายของชายชรา
ทันใดนั้นฉันหันไปมองเบื้องหลังเห็นรังสีความหล่อเหล่าเอาแดกไม่ได้ของไอ้หนุ่มห้องยา
มาได้ไงเนี่ยยังไม่เลิกตามอีกเวรแท้ๆ แล้วพอหันมามองอีกทีก็ดันไม่เจอใครเลย <what is a ลุงหาย>
หายไปได้ไงเมื่อกี่ยังยืนอยู่ตรงหน้าไวจริงๆ
“บีโคจะไปไหน” คำถามโง่ๆที่ออกมาจากปากของคนฉลาด
“กลับบ้านสิพี่ภาคิน สี่โมงครึ่งล่ะ หนูคงไม่ยืนให้เขางอกหรอก”
“ก้าวร้าวน่ะเรา พูดไม่เพราะเลย
อยากโดนปิดปากเหรอ” จากนั้นใบหน้าหล่อก็ขยับเข้ามาใกล้
ใกล้จนฉันนี่ขนลุกซู่ต้องรีบถอยห่าง
“กลับกับพี่น่ะ... ” น้ำเสียงนี่โคตรออดอ้อนจากนั้นใบหน้าหล่อจัดก็ขยับเข้ามาใกล้แล้วระซิบข้างๆหูว่า...
“จะกลับแบบดีๆหรือ จะให้พี่อุ้ม เธอก็รู้...
คนอย่างพี่ไม่ใช้แค่ขู่” จากนั้นขาเจ้ากรรมก็เดินตามแต่โดยดี ขืนไม่ทำตามดิได้เอาหน้าซุกหว่างขาเดินแน่
ก็สถานที่ที่เรากำลังเสวนาคือ ward ของพยาบาล ที่ ที่รวบรวมเหล่ามนุษย์ปากขากรรไกรที่สุดในโลกันต์คือถ้าว่าเเม่ค้าปากตลาดแล้ว
อยากบอกว่าอันนี้ตล๊าดตลาดเลยล่ะ
ในที่สุดฉันก็เดินมาถึงที่จอดรถ รถออดี้สีงาช้างคันหรูจอดอยู่ตรงหน้าฉันขึ้นมานั้งโดยความสงบตามด้วยเจ้าของรถที่เดินฉีกยิ้มทำหน้าบานอย่างกระด้ง
“เป็นเด็กดีจังเลยน่ะบีโค มากับพี่โดยไม่อิดออดเลย”
“สถานการณ์บีบบังคับหรอกถึงได้มา”
“งั้นเหรอ..............................................................”
เป็นคำพูดที่ตบท้ายได้น่าหมั้นใส่ที่สุด รถคันหรูกำลังเดินเครื่องไปบนถนนสี่เลนในขณะเดียวกันมีรถขับสวนกันไปสวนกันมา
“พี่ภาคินถามไรหน่อยดิ พี่ไม่สบายใช่ไหม? ทำงานหนักจนเพี้ยน
กินยาลืมอ่านฉลาก หรือเมายาหมดอายุ รู้ตัวป่ะวันนี้พี่ดูไม่เป็นพี่ภาคินเอามากๆ”
“ยังไง”
“ไม่รู้ตัวใช่ไหม ก็ตลอดที่บีโคมาทำงานที่นี่สามเดือน
พี่ไม่เคยจะคุยกับหนูซักครั้ง เดินเกือบชนหน้าก็ยังไม่มองทั้งๆที่เราก็รู้จักกัน
วันนี้พี่เป็นบ้าอะไรมาทำตีสนิทกับฉันแถมยังมาจูบอีก พี่มีแผนอะไรรึปล่าว(?)”
“พี่ไม่ได้มีแผนอะไร พี่ก็แค่... คิดถึงแฟน” แฟน
ใครอันเชิญสถานะนี้มามิทราบ หมาตัวไหนที่เคยบอกว่า เราเลิกกัน
แล้วไอ้คำว่าแฟนมันมาได้ยังไง นายทำฉันพูดไม่ออกน่ะภาคิน
ทุกอย่างยังคงสงบนิ่งไม่มีคำพูดใดออกมาจากปากของเราและรถก็ยังถูกขับเคลื่อนไม่หยุด
สายฝนตกลงมาโปรยปรายแข่งกับความรู้สึกที่คับแค้นที่อยู่ข้างในใจ
ภาพวันเก่าๆย้อนคืน ใช่แล้วค่ะพี่ภาคิน เค้าไม่ใช่แค่คนที่ฉันรู้จัก
แต่มันลึกซึ้งกว่านั้น เค้าเคยเป็นแฟนฉันหรือพูดให้ง่ายก็คือ แฟนเก่า ธรรมดาฉันเป็นคนที่มีความอดทนสูง ทนได้ทุกอย่างที่เป็นเค้า
แม้จะรู้ว่าเค้าแอบมีอะไรกับใคร...
ฉันหน่ะไม่ได้ใจกว้าง แต่เหมือนว่า...กำลังรอเวลา
เวลาที่จะให้เค้าได้แก้ตัว แต่สุดท้ายชีวิตมันก็ถึงทางตัน เราเลิกกันด้วยเหตุผลที่ว่า
‘พี่คือโนว่าส่วนเธอก็แค่ผู้หญิงธรรมดาๆ เราเข้ากันไม่ได้’
กับภาพสุดท้ายที่ฉันเห็น แฟนของฉันกำลังเล่นทรีซัมกับแม่สาวชาวยี่ปุ่น
แล้วแบบนี้ฉันสมควรที่จะหน้าด้านคบเค้าต่อไปรึปล่าว ระหว่างเรามันจบล่ะ
“บีโค ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอ”
เรามองหน้ากันไปมาจนสุดท้ายฉันก็ต้องพูดอะไรบ้างเพื่อทำลายความเงียบที่เข้ามากัดกินความรู้สึกระหว่างเรา
“เป็นยังบ้างร้านยาของพี่หน่ะ
เห็นว่าขโมยขึ้นจับโจรได้ไหม (?)”
“จับไม่ได้ แต่พี่ก็แจ้งตำรวจไว้แล้ว จะเจอก็แค่มีดหักเล่มนึงเท่านั้น
ตอนนี้ทุกอย่างถูกเก็บเป็นหลักฐาน”
จากนั้นพี่ภาคินก็เปิดรูปในเฟสให้ดูเห็นเป็นมีดสั้นลายดอกดาหลา
“แล้วภาพจากกล้องวงจรปิดหล่ะค่ะ”
“ตอนนั้นมันมืด กล้องก็เลยถ่ายไม่เห็นภาพโจรหน่ะ พี่ดีใจน่ะที่บีโคยังสนใจและก็ติดตามข่าวคราวพี่”
จากนั้นมือของชายหนุ่มก็เข้ามาสัมผัสมือฉันอย่างละมุ่น
“พี่ภาคิน...
เรื่องของพี่มันก็แค่มีคนมาพูดให้หนูฟัง และขอโทษน่ะพี่ คนเรามันควรจะเจ็บแล้วจำ”
ฉันสะบัดมือที่เกาะกุมอย่างไร้ใยดี พี่ภาคินตอนนี้เค้าได้แต่ยิ้มแห้งๆให้ฉัน แล้วก็กลับไปตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อ สีหน้าของพี่เปลี่ยนไปมันดูนิ่งฉันไม่รู้เลยว่าพี่กำลังคิดอะไรอยู่
แล้วสุดท้ายรถหรูก็ถูกจอดตรง บ้าน บ้าน....... บ้านรูด เอ่อ... บ้านรูด
เข้าใจไรผิดป่ะพี่พาฉันมาบ้านรูด บ้านรูดเนี่ยน่ะ พี่ภาคินมึงรู้อะไรไหม รู้ไหมๆว่ากูโกรธ........
“ไม่เคยตายใช่ไหม (?)”
“บีโค เป็นไรไป... ทำไมมองพี่แบบนั้นล่ะ
มองแบบนี้พี่กลัวน่ะ พี่ก็แค่จะพาเรามาเลี้ยงบะหมี่นู่นไง”
ฉันหันไปมองตามนิ้วของพี่ภาคินก็เห็นเป็นร้านบะหมี่ ร้านบะหมี่จริงๆแต่มันดันตั้งติดกับบ้านรูด
เกือบตายแล้วไหมล่ะ
แล้วสุดท้ายเราสองคนก็ลงมานั้งที่ร้านบะหมี่เป็นร้านรถเข็นข้างทางที่ตั้งอยู่ข้างซอกตึกแล้วไอ้ตึกข้างๆเนี่ยน่ะจะซงจะสร้างอะไรไม่ได้เกรงใจกันเล๊ย...
ก็เล่นทำกระจกใสไม่มีอะไรปกปิด คือบั่บบอกเลยกะจิตกะใจตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่บะหมี่
“บีโคไม่กินเหรอเจ้านี้อร่อยน่ะพี่มากินบ่อย”
“สาบานว่ามานั่งร้านนี่เพราะพี่อยากกินบะหมี่
ที่นี่วิวดีเนอะ” แหม๋...
ทำเป็นหน้าแดงคืออันนี้ไม่ได้เขินอายใช่ป่ะ(?) แต่กำลังหื่นแตกอยากเล่นว่าวกลางร้านอะไรงี้ เข้าใจนายล่ะภาคินว่าทำไมนายถึงได้เป็นคนหน้าหม้อ... สงสารจริงๆเด็กน้อยสื่อมอมเมาเจ้าแท้ๆ
“แล้วไอ้คนข้างๆ สาบานว่าที่ร้องซี๊ด...
เพราะบะหมี่มันเผ็ด”
“นี่....นี่..... บีโค
หยุดวิภาควิจารณ์คนอื่นได้ล่ะแล้วกินซ่ะบะหมี่อืดหมดแล้ว” นายภาคินทำหน้าดุแบบน่าหมั่นเขี้ยวใส่
น่ารักตายล่ะ
“ค่ะๆ.......... กินแล้ว กินแล้ว”
ฉันทำหน้ายู่ใส่พี่แกทีนึงก่อนที่จะซูดบะหมี่ในชามเข้าปาก แล้วพี่ภาคินแกก็มาลูบหัวฉันเล่นอย่างกับหมาน้อย
จากนั้นพี่แกก็คว้ามือฉันมากำไว้แน่นพร้อมกับมองตาทำสีหน้าจริงจัง
“บีโคพี่ขอโทษในสิ่งที่พี่เคยทำกับเรา พี่ทนที่จะทำตัวเหมือนเราไม่รู้จักกันไม่ได้อีกแล้ว
ให้อภัยพี่น่ะ”
“พี่ภาคิน ทุกอย่างมันคืออดีต บีโคโกรธพี่...
บีโคจะได้อะไร บีโคให้อภัยพี่ค่ะ”
“แล้วระหว่างเรา... “
“เพื่อน...
บีโคให้พี่ได้แค่เพื่อน แต่ว่า... มันอาจจะไม่ได้ผล”
“ไม่หรอก พี่อยากเป็นเพื่อนกับบีโค ดีกว่าไม่มีบีโคอยู่ในชีวิตเลย”
“เพื่อน/เพื่อน” สุดท้ายจุดจบของเราก็ไปได้สวยมิตรภาพงดงามกว่าที่คิดกอดแบบเพื่อนก็อบอุ่นดีน่ะ
มันทำให้ฉันนึกถึงคุณลุงซานต้า ว่าแต่ตอนนี้เวลาตีเท่าไหร่แล้วน่ะ
“มองนาฬิกาทำไมบีโค มีนัดเหรอ(?)”
“ปล่าวพี่... แค่วันนี้เป็นวันคริสต์มาส
แล้วมีคนบอกว่าจะให้ของขวัญบีโคในเวลาเที่ยงคืน แต่ตอนนี้... สามทุ่มอยู่เลย”
“จริงด้วย... วันนี้วันคริสต์มาสหนิพี่ไม่มีของขวัญให้บีโคเลย งั้น... เดียวพี่ไปซื้อน่ะ”
“ไม่เป็นไรพี่... มิตรภาพวันนี้คือของขวัญที่ดีที่สุดที่พี่จะให้หนู”
“ก็ได้ งั้น... กินเยอะๆน่ะ เฒ่าแก่บะหมี่ชามนึงครับ”
ฉันปฏิเสธสายหน้าจนคอแทบเคล็ด
แต่พี่แกบอกว่าต้องกินให้ได้จากนั้นบะหมี่ชามโตก็มาเสพตรงหน้า
“นี่เดี่ยวพี่ปรุงให้ รับรองอูมามิกินแล้วจะติดใจ”
จากนั้นพี่แกหยิบไข่ไก่ที่อยู่ในตะกร้า แล้วตอกใส่ชามท่าทางดูเก้งๆกางๆซ่ะไม่มี
“อุ๊ย!!!... แตกคาขาเลยน่ะครับ” พี่ภาคินอุทานเมื่อไข่เจ้ากรรมมันไม่ยอมไปอยู่ในชาม
“ดูดิแตกถึงพื้นเลย ทำไม่เป็นแล้วยังจะมาอวดดี มาเดี๋ยวบีโคช่วย”
ฉันหยิบทิชชูแล้วนั่งยองๆเช็ดคราบที่ติดอยู่ตรงที่ขากางเกง ซึ่งน้ำไข่ไก่มันทั้งข้นทั้งเหนียวเช็ดโคตรยาก
<ณ
เวลานี้ขอแอบดูคนข้างบนหน่อยเหอะ... พี่แม่-งยิ้มอะไรนักหนามองกูจังเลย คิดอะไรกับกูป่าวเนี่ย>
ขณะที่กำลังเช็ดอยู่เพลินๆทันใดนั้นก็มีมือเย็นๆมาจับตรงบ่า
“ทำอะไรหน่ะ” คือจะถามทำไม ไม่เห็นรึไงว่าคนกำลัง....
“เช็ดไข่อยู่...” ฉันตอบกลับไปด้วยความรำคาญ
หนิถ้าสะกิดอีกรอบน่ะแม่จะกระโดดกัดงับให้แขนด้วนเลย
บีโค !
อะไรเนี่ยมีขึ้นเสียง เดี๋ยวปั่ดโปกให้หน้าหันหรอก ว่าแต่เสียงคุ้นๆแฮ่ะใครเรียกว่ะ
กำลังเช็ดไข่อยู่มันๆ พอหันมาดูโป๊ะแชะที่รักกูนี่เอง <This is a แฟน> พร้อมคณะเพื่อนทีดูถ่อยสถุนสุดๆ
เอ่อ... สภาพตอนนี้บรรยายได้ป่ะ
บรรยายน่ะ...คือบั่บ พี่ภาคินนั่งบนเก้าอี้กำลังถ่างขาให้ฉันเช็ดไข่
ซึ่งฉันนั่งย่องๆระหว่างขาทั้งสองข้าง ส่วนแฟนฉันกำลังทำหน้าฉุนอยากเตะก้านคอคน
ส่วนอีเพื่อนของคุณแฟนกำลังทำหน้าตากวนตีนมองฉันตั้งแต่หัวจรดหางเห็นภาพป่ะตามน่ะแหละ
“ทำอะไรบีโค” สีหน้าคือบั่บถ้าจะมองงี้เอามีดมาเสียบเลยม่ะคุณแฟน
<ล่อเล่นน่ะตัวเอง>
“เช็ดไข่“ ตอบไปเลยตรงๆด้วยความบริสุทธิ์ใจ
แฟนแม่-งยกมือเตรียมตบแสกหน้า กูนิหลบอาบะคัตย่างเร็ว โห่... แฟนใครทีโหดสัสรัสเซียมองโกเลียสวีเดนหลุดมาจากแดนไหน
นิไม่ได้แคร์โวลเลยฉันเป็นชะนีน้อยน่ะทำอย่างงี้ได้ไง เดี๋ยวฟ้องปวีณาหรอก
“นี่แกเป็นใคร(?)” แฟนผู้เป็นสุภาพชลกำลังสนทนาโดยการใช้นิ้วกลางชี้หน้าพี่ภาคินอย่างละมุ่นละไม
แฟนใครบอกที่น่ารักสัสๆ <กู>
“ฉัน ภาคิน เป็นเพื่อนบีโค”
“ฉัน เคมี เป็นแฟนบีโคกระจ่างม่ะ”
พี่ภาคินกระตุกยิ้มให้แฟนหนุ่มของฉัน ก่อนที่เค้าจะจับไหล่ฉันแล้วประคองให้ลุกขึ้น
“ฉันเข้าใจเธอล่ะบีโคว่าทำไมเธอให้ฉันได้แค่เพื่อน
แต่จะบอกอะไรให้ ฉันหน่ะไม่มีวันยอมแพ้เค้าหรอก” ให้ตายสินี้มันอะไรกันอยู่ดีๆก็เนื้อหอมซ่ะอย่างงั้น
ไหนพี่บอกว่าเราเป็นเพื่อนกันไงล่ะพี่ภาคิน แล้วคราวงี้อยู่ดีๆมาพูดกลับกลอกแบบงี้ได้ไง
งานงอกเลยเรา
“บายบีโค พี่กลับก่อนน่ะ”
เอาแล้วไงไอ้พี่ตัวแสบจะไปไม่ไปปล่าวทิ้งระเบิดตูมใหญ่ไว้ให้ฉัน
จากนั้นพี่แกก็ขับออดี้คันงามไปทิ้งฉันไว้ให้อึ้งแดกกับสถานการณ์ตรงหน้า
หลังจากพี่ภาคินจากลาก็หันหน้ามาเจอเคมีทำปากสะพานโค้งใส่
“อย่าทำหน้ายู่สิ บีโคก็แค่มากินก๋วยเตี๋ยวกับพี่เค้าก็เท่านั้น
มันไม่มีอะไรจริงๆน่ะคุณแฟน”
“มากินก๋วยเตี๋ยวใกล้บ้านรูด
ไม่เข้าบ้านรูด ถ้าจะให้เคมีเชื่อที่บีโคพูด บีโคก็เรียกเคมีว่าควายก็ได้น่ะ” คำพูดของเคมีมันเกินไปจริงๆ
เค้ากำลังบีบคั้นฉันเกินไป ถ้าจะพูดกันแบบนี้ก็ป่วยการที่ฉันจะอธิบายอะไร
“แล้วที่มาลูบเป้ากลางร้านอีก
หลักฐานคาตาขนาดนั้น แก้ตัวไปก็ไม่ทำให้เคมีคิดอย่างอื่นได้เลยนอกจาก
แฟนตัวเองกำลังเล่นชู้” ชู้เหรอ(?)
“แล้วนั่นบีโคจะไปไหน(?)
เรายังไม่เคลียกันเลยน่ะ”
“ก็เคมี ไม่ฟังบีโคเลย คุยกันก็มีแต่ทะเลาะ
สงบสติได้เมื่อไหร่ค่อยคุยกัน”
“ร่านว่ะ”
“ถ้าจะพูดกันขนาดนี้เลิกกันเลยม่ะ”
เคมีนายทำเกินไปจริงๆ ตลอดเวลาที่เราคบกันมันไม่ทำให้นายเชื่อใจฉันเลยเหรอ รักของฉันมันไม่ทำให้นายเชื่อฉันเลย
ความรักของฉันที่มีให้มันคงจะไร้ค่าสำหรับนาย ฉันทนทุกอย่างเพื่อให้รักของเราดำเนินต่อแต่สิ่งที่นายตอบแทนฉันคือ
ร่าน จบเถอะเคมีฉันไม่ไหวแล้ว
“เหนื่อยไหมกับการที่ต้องคอยจับผิด เคมี... มีดลายดอกดาหลาที่ฉันเคยให้นายมันอยู่ไหน(?)”
“อยู่ที่บ้าน ถามทำไม”
“เหรอ ถึงตอนนี้นายก็ยังโกหกฉัน ขอโทษน่ะเคมี บีโคเจอมันที่สถานีตำรวจ
เคมีคือโจรที่ขึ้นร้านยาพี่ภาคินใช่ไหม นายขโมยยาไอทำไม เอาไปเสพใช้รึปล่าว
แล้วถุงยางเคมีก็เอาไปใช้กับไอ้พวกนี้ใช่ไหม ถามจริงๆนายจะรั้งฉันไว้ทำไม” ฉันมองไปที่เพื่อนของเคมีซึ่งแต่ละคนทำสีหน้าพอใจเมื่อเห็นเราทะเลาะกัน
“นี้มันคนล่ะเรื่องกันน่ะบีโค”
“เหรอ แต่บีโคว่ามันคือเรื่องเดียวกันน่ะเคมี”
ฉันสวมกอดชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับเอาทิชชูในกระเป๋าเช็ดริมฝีปากบางอมชมพูที่เลอะคราบน้ำสีโค๊ก
จากนั้นใช้มืออีกข้างลูบไล้ไปที่มือแล้วลากไปที่บั่นท้ายกลม
พอมองไปที่เพื่อนเคมีพวกเค้าก็มีปฏิกิริยาเหมือนกำลังบอกฉันว่าอย่าแตะต้องคนของเค้า
“ทำอะไรบีโค”
“เก็บหลักฐาน พลาสเตอร์ติดแผลที่มีคราบเลือดตำรวจคงพิสูจน์ได้ว่ามันตรงกับดีเอ็นเอที่ติดตรงปลายมีดในที่เกิดเหตุ
และนายก็คือโจร
คราบยาแก้ไอที่ติดตรงปาก
นายก็รู้ฉันไม่ชอบคนติดกระท่อมหรือยาเสพ แต่นายก็เสพมัน
ถุงยางใช่แล้ว นายนอกใจฉันเคมีทั้งๆทีฉันพยายามจะเชื่อใจนายว่านายมีฉันเพียงคนเดียว
แต่ที่ไหนได้นายกลับไปมั่วเซ็กซ์กับเพื่อนของนาย นายโกหกฉันมาตลอดเคมี”
“ฉันไม่เคยโกหกแต่เธอไม่รู้เองต่างหาก”
“งั้นเหรอฉันคงโง่มากสิน่ะที่ไม่รู้จักแฟนตัวเองดีพอ
ว่าเลวแค่ไหน เคมีเราเลิกกันเถอะ”
“เธอจะเลิกกับฉันแบบนี้ไม่ได้น่ะ
ถ้าเธอไปฉันจะเอาเงินที่ไหนใช่ล่ะ” ฉันหันไปมองคนที่พูด ซึ้งเลยเคมี สำหรับนายแล้วตัวฉันคงมีค่าแค่นี้สิน่ะ
ลาก่อน
ฉันวิ่งออกจากร้านก๋วยเตี๋ยวไปบนถนนคอนกรีตทันใดนั้นก็มีแสงไฟสว่างจ้าพุ่งเข้ามาและในที่สุดทุกอย่างก็ดับลง
.....................................................................
ฉันรู้สึกอยู่ในภวังค์แห่งความมืดที่สุดแสนจะเนิ่นนานมองไปรอบด้านก็เป็นสีเทาไม่มีคนไม่มีใคร
จะมีก็แค่ฉัน... เหงาจัง
ความว่างปล่าวหน่ะ
“ขี้เซาจังเลยน่ะเด็กน้อย”
ฉันหันไปมองเสียงนั้นก็ปรากฏเป็นร่างชายชรา คุณลุงซานต้าหนิฉันจำเค้าได้ แต่วันนี้เค้าดูดีมากเค้าดูไม่เป็นชีเปลือกอย่างวันแรกที่เจอ
เค้าดูสุขุมดูใจดี
“นี่หนูหลับอยู่เหรอค่ะ แล้วคุณลุงเข้ามาในความฝันของหนูได้ไง”
“ลืมไปแล้วเหรอ ลุงเป็นซานต้าคลอส
ไม่มีอะไรที่ลุงต้องการแล้วไม่ได้”
“แล้ววันนี้คุณลุงมาหาหนูทำไมค่ะ”
“หนูยังไม่ได้ของขวัญจากลุงเลย”
“หมายถึง รักแท้เหรอ”
“จ้า สัมผัสสิรักแท้อยู่ในมือหนูแล้ว” ฉันทำตามที่คุณลุงบอกสัมผัสได้ถึงไออุ่น
ผิวที่จับมันดูหยาบกร้าน แต่การตอบสนองที่ได้กลับมันดูนุ่มนวล
นี่เหรอรักแท้ที่ว่า... ดีจัง ^_____^
“บีโค บีโค ตื่นสิ ตื่นมา...
ตื่นมามองกันซักที บีโค...”
เสียงใคร เสียงใครกันที่กำลังตะโกนเรียกฉัน แสงสว่างเริ่มเคลือบคลานเข้ามา
ดวงตาเริ่มเบิกกว้างทัศนียภาพรอบกายดูไม่คุ้นเคย แล้วใครกันที่กำลังสวมกอดฉัน
“คุณเป็นใครค่ะ”
“บีโคตื่นแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง
แม่เป็นห่วงลูกมากเลยน่ะ เดี๋ยวแม่ไปตามหมอมาให้”
“แม่... แล้วคนอื่นล่ะค่ะ”
“ลูกพึ่งตื่นอย่างพูดถึงใครเลย
กินน้ำก่อนดีกว่าเดี่ยวแม่ไปตามหมอมาให้”
“ไม่มีใครมาเยี่ยมหนูเลยใช่ไหม(?)”
แม่ฉันตอบรับโดยการพยักหน้า
“หนูหลับนานแค่ไหนแล้ว”
“หนึ่งปี”
“แล้วเคมีแฟนหนู และก็พี่ภาคินล่ะค่ะพวกเค้า...
ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”
“โถ่... บีโค ภาคินตอนนี้หน่ะเค้าแต่งงานมีลูกมีเมียแล้ว
ส่วนเคมีแฟนลูกตอนนี้เค้าหายสาปสูญไปไม่มีใครเคยเจอเค้าเลยตั้งแต่วันที่ลูกโดนรถชน
แต่ก็มีเสียลือกันว่าเคมีเสพยาเกินขนาดจนตาย
แล้วก็ยังมีบางกลุ่มบอกว่าเคมีตายเพราะติดเอสด์” ฉันมองหญิงชราตรงหน้าขอบตาเริ่มร้อนแล้วน้ำตามันก็ไหลมาไม่ยอมหยุด
ทั้งที่ตอนนี้ตัวฉันนอนอยู่นิ่งๆ แต่ทำไมร่างกายฉันมันถึงได้เหนื่อยเหลือเกิน
“บีโคอย่าเสียใจไปเลย แม้ตรงนี้ไม่มีใครแต่ลูกก็ยังมีแม่
แม่ที่รอ รอลูกได้เสมอไม่ว่าบีโคจะเป็นยังไง” จากนั้นร่างหญิงชราก็สวมกอดฉัน
ฉันมองไปที่นาฬิกาบนฝาห้องก็เห็นเป็นเวลา 24.00 น จากนั้นก็มีเสียงหนึ่งมากระซิบตรงข้างหูว่า
‘ได้รับของขวัญแล้วสิน่ะเด็กน้อย’ จากนั้นเสียงพรุก็ดังเปรี่ยงปล่างฉันมองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นเป็นกวางเรนเดียร์ที่กำลังดึงรถลากแล้วในนั้นก็มีคุณลุงซานต้าพร้อมกับถุงของขวัญใบใหญ่แล้วพวกเค้าก็หายเข้าไปในดวงจันทร์เหลือเพียงพรุตระการตาเต็มท้องฟ้าไปหมด
“ร้องทำไมลูก เสียใจเหรอ(?)”
“หนูไม่ได้เสียใจแต่หนูดีใจ” ดีใจที่ตรงนี้มีแม่เป็นรักแท้ของหนู
และฉันจะจดจำวันนี้ไปจนวันตาย
Merry Christmas
++++++++++++++++++++++THE END+++++++++++++++++++++
คนอย่างฉันถูกโยนทิ้งขว้าง
กลับมีเธอรับเอามาใส่ใจดูแล
หยิบใจฉันขึ้นมาจากพื้น
ช่วยชีวิตให้ยืนได้เหมือนเดิม
ขอบคุณที่เธอยอมรักกัน
ผลงานอื่นๆ ของ IPER^2 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ IPER^2
ความคิดเห็น